การพัฒนา ของ แฟร์ไชลด์รีพับลิค เอ-10 ธันเดอร์โบลท์ 2

ภูมิหลัง

การวิจารณ์พบว่ากองทัพอากาศสหรัฐฯ ไม่ได้ใช้การสนับสนุนทางอากาศอย่างฉับไวจริงๆ สมาชิกบางคนเริ่มมองหาอากาศยานจู่โจมพิเศษ[6] ในสงครามเวียดนามอากาศยานโจมตีพื้นดินจำนวนมากถูกยิงตกโดยอาวุธขนาดเล็ก ขีปนาวุธอากาศสู่อากาศ และปืนต่อต้านอากาศยานระดับต่ำ ส่งผลให้เร่งการพัฒนาอากาศยานให้ดีขึ้นจนสามารถรอดจากการยิงของอาวุธดังกล่าวได้ นอกจากนี้เฮลิคอปเตอร์ในสมัยนั้นอย่างยูเอช-1 ไอโรควอยส์และเอเอช-1 คอบราซึ่งผู้บัญชาการกองทัพอากาศสหรัฐฯ ได้กล่าวว่ามันเหมาะกับการสนับสนุนระยะใกล้ แต่มันก็ไม่เหมาะกับการจัดการยานเกราะ ปืนกล และจรวดจึงทำให้มันเป็นเป้าหมายที่บอบบาง เอฟ-4 แฟนทอม 2 ถูกใช้ในการสนับสนุนระยะใกล้แต่ส่วนใหญ่แล้วก็ใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉินเท่านั้นเนื่องจากมันมีการร่อนที่รวดเร็วและใช้น้ำมันไม่คุ้ม ด้วยการที่เอฟ-4 ส่วนมากไม่มีปืน แต่มีเอฟ-4อีที่ติดตั้งปืนเอ็ม61 วัลแคนขนาด 20 ม.ม.เพื่อจัดการเป้าหมายที่ยาก

A-10 Thunderbolt II

เอ-10 ธันเดอร์โบลท์ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ในปีพ.ศ. 2518

ในวันที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2510 กองทัพอากาศสหรัฐฯ ได้ร้องขอข้อมูลผู้ทำสัญญาป้องกัน เป้าหมายของพวกเขาคือเพื่อสร้างแบบอากาศยานโจมตีราคาถูกโดยเรียกว่าเอ-เอ็กซ์หรือ"Attack Experimental" เจ้าหน้าที่ที่ดูแลโครงการคือผู้การเอเวอร์รี เคย์[6] ในปีพ.ศ. 2512 รัฐมนตรีของกองทัพอากาศได้ขอปิแอร์ สเปรย์ให้เขียนรายละเอียดเฉพาะสำหรับโครงการเอ-เอ็กซ์ อย่างไรก็ตามการมีส่วนร่วมของเขาถูกเก็บเป็นความลับเพราะว่าก่อนหน้านี้สเปรย์มีส่วเกี่ยวข้องในโครงการของเอฟ-15 อีเกิล[6] การหารือของสเปรย์กับนักบินเอ-1 สกายไรเดอร์ในเวียดนามและประเมินความมีประสิทธิภาพของเครื่องบินปัจจุบันและพบว่าต้องการการร่อนที่นานขึ้น ความสามารถในระดับความเร็วต่ำ อำนาจการยิงปืนใหญ่อย่างมาก และความคงทนสูง[6]

เครื่องบินที่มีส่วนองค์ประกอบชั้นยอดจากอิลยูชิน อิล-2 เฮนส์เชล เอชเอส 129 และเอ-1 สกายไรเดอร์ ข้อจำกัดยังรวมทั้งความต้องการให้เครื่องบินมีราคาต่ำกว่า 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ[6] ในเดือนพฤษภาคมพ.ศ. 2513 กองทัพอากาศสหรัฐฯ ทำการดัดแปลงและมีการเสนอรายละเอียดเพิ่มเมื่อภัยคุกคามของกองกำลังติดอาวุธโซเวียตและปฏิบัติการโจมตีทุกสภาพอากาศกลายมาเป็นเรื่องสำคัญ บริษัททั้งหกยื่นข้อเสนอให้กับกองทัพอากาศสหรัฐฯ ด้วยนอร์ทธรอปและแฟร์ไชลด์ รีพับลิกได้เลือกที่จะสร้างต้นแบบ คือ วายเอ-9เอและวายเอ-10เอตามลำดับ

วายเอ-10เอทำการบินครั้งแรกเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2515 หลังจากทดสอบกองทัพอากาศก็เลือกวายเอ-10เอของแฟร์ไชลด์ รีพับลิกในวันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2516 เพื่อทำการผลิต นอกจากนั้นยังมีการแข่งขันกับเอ-7ดี คอร์แซร์ 2 ซึ่งเป็นเครื่องบินจู่โจมของกองทัพอากาศในตอนนั้นเพื่อที่จะพิสูจน์ความต้องการในการซื้อเครื่องบินแบบใหม่ เอ-10 ที่ผลิตลำแรกทำการบินในเดือนตุลาคมพ.ศ. 2518 และส่งให้กับกองทัพอากาศในเดือนมีนาคมพ.ศ. 2519 ให้กับฐานบินเดวิส มอนแธนในรัฐแอริโซนา ฝูงบินแรกที่ใช้เอ-10 เข้าประจำการในเดือนตุลาคมพ.ศ. 2520 โดยรวมแล้วมีเครื่องบินทั้งหมด 715 ลำที่ถูกผลิตและลำสุดท้ายในพ.ศ. 2527[7]

เอ-10 รุ่นทดลองที่มีสองที่นั่งถูกสร้างโดยดัดแปลงมาจากเอ-10เอ[8] รุ่นนี้เรียกว่าเอ็น/เอดับบลิว (Night Adverse Weather) ถูกพัฒนาโดยแฟร์ไชลด์จากการทดลองเอ-10 ให้กองทัพอากาศสหรัฐฯ พิจารณา มันรวมทั้งที่นั่งที่สองสำหรับผู้ควบคุมอาวุธ แบบอื่นๆ นั้นถูกยกเลิกและมีเพียงแบบสองที่นั่งเท่านั้นที่ยังอยู่ในฐานบินและรอเข้าพิพิธภัณฑ์[9] ข้อเสนอของเอ-10 สองที่นั่งสำหรับฝึกไม่ถูกนำเข้าสายผลิต ด้วยการที่เอ-10 นั้นบินง่ายพอจนไม่จำเป็นต้องใช้แบบสำหรับการฝึก

การพัฒนา

เอ-10 ได้รับการพัฒนามากมายตลอดหลายปี เครื่องบินถูกพัฒนาด้วยระบบนำร่องภายในและเซ็นเซอร์เลเซอร์แบบเพฟเพนนี (สำหรับชี้เป้า) เพฟเพนนีเป็นตัวหาเป้าแบบไร้ปฏิกิริยาและไม่สามารถกำหนดเป้าหมายได้เองให้กับระเบิดนำวิถีด้วยเลเซอร์ ต่อมาระบบความปลอดภัยเมื่อบินต่ำและระบบหาเป้าที่พัฒนาได้นำมาซึ่งอาวุธที่เล็งเป้าด้วยคอมพิวเตอร์ และนักบินอัตโนมัติ และระบบเตือนเมื่อบินใกล้พื้นมากเกินไป เอ-10 มีกล้องมองกลางคืนสำหรับปฏิบัติการในตอนกลางคืน ในปีพ.ศ. 2542 เครื่องบินเริ่มได้รับระบบนำร่องแบบจีพีเอสและในพ.ศ. 2548 ก็เริ่มมีการติดตั้งระบบจับเป้าที่พัฒนาด้วยระบบไอเอฟเอฟซีซี ( Integrated Flight & Fire Control Computers)

เอ-10 ถูกกำหนดว่าจะเข้าประจำการในกองทัพอากาศสหรัฐฯ จนถึงปีพ.ศ. 2571[10] ในพ.ศ. 2548 กองบินเอ-10 ทั้งกองเริ่มได้รับการพัฒนาซึ่งทำให้มันมีชื่อใหม่ว่าแบบ"ซี"ซึ่งรวมทั้งระบบควบคุมการยิงที่พัฒนาและความสามารถในการใช้สมาร์ทบอมบ์ เอ-10 จะเป็นส่วนหนึ่งของโครงการยืดอายุการใช้งานด้วยการเปลี่ยนปีกใหม่[10] สัญญาที่สั่งสร้างปีกเอ-10 ใหม่เพิ่มอีก 242 ปีกถูกมอบให้กับโบอิงในวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2550[11] การดัดแปลงเพื่อพัฒนาอาวุธกำลังอยู่ในการดำเนินการ แบบซีนั้นจะพัฒนาเสร็นสิ้นในปีพ.ศ. 2554[12]

แหล่งที่มา

WikiPedia: แฟร์ไชลด์รีพับลิค เอ-10 ธันเดอร์โบลท์ 2 http://www.aircraftresourcecenter.com/AWA1/301-400... http://www.airforce-magazine.com/MagazineArchive/P... http://boeing.com/ids/news/2007/q2/070629b_nr.html http://www.defenseindustrydaily.com/2007/06/a-high... http://www.flightglobal.com/articles/2007/08/29/21... http://www.gao.gov/cgi-bin/getrpt?GAO-07-415 http://www.gao.gov/htext/d07415.html http://archive.is/20120720004422/http://www.af.mil... http://www.acc.af.mil/news/story_print.asp?id=1230... http://www.nationalmuseum.af.mil/factsheets/factsh...